Native Premium Coconut Oil Set (เซตโปรโมชั่นน้ำมันมะพร้าวน้ำหอมแบบพรีเมี่ยม)

จำกัดคาร์โบไฮเดรต

โปรตีนพอเหมาะ

ไขมันพออิ่ม”

อาหารคีโต คืออะไร

คือ การทานอาหารแบบหนึ่ง ไม่ใช่ยา ไม่ใช่อาหารเสริม หรือไม่ใช่สิ่งที่คุณจะทำทานเองที่บ้านไม่ได้

การทานอาหารคีโต 

คือ การทานอาหารโดยมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ต่ำมากและไขมันที่สูง

ซึ่งการทานแบบนี้ก็จะคล้ายกับการทานแบบ Atkins รวมถึงการทานโลว์คาร์บบางประเภท

ทำไมต้องคาร์โบไฮเดรตที่ต่ำมาก

เมื่อร่างกายเรามีคาร์โบไฮเดรตที่สะสมน้อยลง (ในรูปของไกลโคเจน) ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า

คีโตสิส – Ketosis — ที่มาของคำว่า อาหารคีโต

แล้วทำไมต้องไขมันสูง

เมื่อเราลดการทานคาร์โบไฮเดรตหรือข้าว/แป้งลง พลังงานที่ร่างกายใช้ได้ก็จะมาได้จากแค่สองแหล่งคือ โปรตีน หรือ ไขมันแต่เพราะอาหารคีโต ไม่เน้นการเพิ่มโปรตีนให้เกินพอดี พลังงานที่ขาดก็จะมาได้แค่จากไขมัน

ทำไมไม่เน้นโปรตีนเกินพอดี

เพราะร่างกายไม่สามารถสะสมโปรตีนส่วนที่เกินได้ แต่จะมีการแปลงไปสะสมในรูปแบบไขมัน หรือไกลโคเจนแทน รวมทั้งพยายามขับโปรตีนส่วนเกินผ่านทางไต

และนั่นก็คือที่มาของคำว่า อาหารคีโต

ไขมันและน้ำมันที่จำเป็น

พยายามทานอาหารที่มีไขมันส่วนใหญ่จะมีสัดส่วนไขมันที่แตกต่าง น้ำมันที่ดีสุดในการใช้คือพวกที่มี PUFA ต่ำ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า น้ำมัน High Oleic Safflower น้ำมันมะพร้าว (Coconut oil) และน้ำมันปาล์ม ในปัจจุบัน น้ำมันมะพร้าว เป็น item ยอดฮิต สำหรับผู้ที่รักสุขภาพและทานอาหารคีโต

พยายามเลี่ยงน้ำมันที่ทำจากข้าวโพด ถั่วเหลือง เมล็ดฝ้าย ถั่วเหลือง safflower รวมถึงมาการีน และมายองเนสที่ทำมาจากน้ำมันเหล่านี้

เนยและไขมันจากวัว หรือหมูเป็นตัวเลือกที่ดี ทั้งที่แฝงมาในเนื้อสัตว์หรือใช้เป็นไขมันเพิ่มระหว่างการทำอาหารเนื่องมาจากมันไม่มีคาร์โบไฮเดรตเลยจึงทานได้เต็มที่ ลองทำให้สร้างสรรค์แล้วใช้น้ำมันเหล่านี้มาช่วย เช่น น้ำสลัด น้ำหมัก ผัด ทอด เป็นต้น

 อาหารอื่นๆที่มีไขมัน ที่มีทั้งโปรตีนและคาร์บเล็กน้อยส่วนมากตามธรรมชาติจะมี PUFA ที่ต่ำ จึงทำให้คุณทานได้สม่ำเสมอ ไขมันจากสัตว์ในเนื้อ ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนมมี PUFA ต่ำและเป็นแหล่งที่ดีของ SFA และ MUFA อาหารอื่นก็เช่น มะกอก อะโวกาโด ครีมข้น ซาวครีม ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ด และชีส

การทานอาหารแบบคีโตหรือคีโตไดเอท เหมาะและไม่เหมาะกับใคร

การลดน้ำหนักด้วยวิธีการคีโตไดเอท ด้วยการทานอาหารแบบคีโต เหมาะสำหรับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ  และไม่ต้องทำงานที่ใช้พลังงานมาก เนื่องจากในระยะแรกอาจทำให้เกิดการอ่อนเพลีย รวมถึงเกิดภาวะบางอย่างขึ้นจากการปรับตัวของร่างกาย

 ส่วนผู้ที่ไม่สามารถทานอาหารแบบคีโตหรือลดน้ำหนักแบบคีโต ได้แก่

·         ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือบุคคลในครอบครัวมีปัญหาเกี่ยวกับตับและไตมาก่อน

·         ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะอาจจะต้องปรับเรื่องยาเบาหวานที่รับประทานอยู่

·         ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด กรดไหลย้อน ลำไส้บีบตัวไม่ดี

·         ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ

·         ผู้ที่ต้องทำงานหนักและออกแรงเป็นประจำ